เมนู

5. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ


พราหมณ์ถามว่า
[102] ท่านตกแต่งร่างกาย ใส่ต่างหูเกลี้ยง ฯลฯ
(เหมือนในมัฏฐกุณฑลีวิมานที่ 9 สุนิกขิตตวรรค
ที่ 7 ในวิมานวัตถุ)
จบ มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุที่ 5

อรรถกถามัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุที่ 5



เมื่อพระศาสดา ประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรง
ปรารภมัฏฐกุณฑลีเทพบุตร จึงตรัสคำเริ่มต้นว่า อลงฺกโต
มฏฺฐกุณฺฑลี ดังนี้. ข้อที่จะพึงกล่าวในเรื่องมัฏฐกุณฑลีนั้น ท่านได้
กล่าวไว้แล้วในอรรถกถา มัฏฐกุณฑลีวิมานวัตถุ ในอรรถกถา
วิมานวัตถุ ชื่อ ปรมัตถทีปนี เพราะฉะนั้น พึงทราบโดยนัยดังกล่าว
ไว้ในอรรถกถาวิมานวัตถุนั้นนั่นแหละ.
ก็ในที่นี้ เรื่องของมัฏฐกุณฑลีนั้น ท่านยกขึ้นรวบรวมไว้ใน
บาลีวิมานวัตถุ เพราะมัฏฐกุณฑลีเทพบุตรเป็นเทวดาในวิมานก็จริง
ถึงกระนั้น เพราะเหตุที่เทพบุตรนั้น เพื่อจะกำจัดความเศร้าโศกของ
อทินนปุพพกะพราหมณ์ ผู้ไปป่าช้า เดินเวียนรอบป่าช้าร้องไห้

เพราะความเศร้าโศกถึงบุตร จึงแปลงรูปเทวดาของตน เป็นคน
มีร่างกายประพรมด้วยจันทน์เหลือง ประคองแขนทั้ง 2 คร่ำครวญ
อยู่ แสดงตนโดยอาการที่ถูกทุกข์ครอบงำ เหมือนเปรต. แม้จะ
เป็นเปรตโดยอ้อม ก็ย่อมได้ เพราะปราศจากอัตตภาพมนุษย์ ดังนั้น
พึง เห็นว่า เรื่องของมัฏฐกุณฑลีนั้น ท่านจึงยกขึ้นรวบรวมไว้ใน
บาลีเปตวัตถุ.
จบ อรรถกถามัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุที่ 5

6. กัณหเปตวัตถุ



ว่าด้วยความปรารถนากระต่ายจากดวงจันทร์



โรหิไณยอำมาตย์กราบทูลว่า
[103] ข้าแต่พระองค์ผู้กัณหโคตร ขอพระองค์
จงลุกขึ้นเถิด จะมัวบรรทมอยู่ทำไม จะมี
ประโยชน์อะไรแก่พระองค์ด้วยการบรรทม
อยู่เล่า ข้าแต่พระเกสวะ บัดนี้พระภาคาร่วมพระ
อุทรของพระองค์ ซึ่งเป็นดุจพระหทัยและนัยน์-
เนตรเบื้องขวาของพระองค์ มีลมกำเริบคลั่งเพ้อ
ถึงกระต่ายไปเสียแล้ว. พระเจ้าเกสวะ ได้ทรง
ฟังคำของโรหิไณยอำมาตย์แล้ว อันความเศร้า-
โศกถึงพระภาดาครอบงำ ก็รีบเสด็จลุกขึ้นทันที
จับพระหัตถ์ทั้งสองของฆฏบัณฑิตไว้มั่นแล้ว
เมื่อจะทรงปราศรัย จึงตรัสพระคาถา มีความว่า
เหตุไรหนอ เธอจึงทำดุจเป็นคนบ้าเที่ยว
ไปทั่วนครทวารกะนี้ เพ้ออยู่ว่า กระต่าย ๆ เธอ
ปรารถนากระต่ายเช่นไร ฉันจักให้นายช่างทำ
กระต่ายทอง กระต่ายแก้วมณี กระต่ายโลหะ
กระต่ายรูปิยะ กระต่ายสังข์ กระต่ายหิน กระต่าย
แก้วประพาฬ ให้แก่เธอ หรือว่ากระต่ายอื่น ๆ